แชสเซ่อร์ซอส

ซอสชนิดนี้เอาไปราดไก่ทอดหรือเนื้อทอดเป็นที่นิยมรับประทานกันมาก

ส่วนผสม “แซสเซ่อร์ซอส”

1. ซอสสีน้ำตาล 2 ถ้วยตวง

2. หอมใหญ่หั่นบางๆ ½ หัว

3. ไวน์ขาว 2 ช้อนโต๊ะ

4. เนย 2 ช้อนโต๊ะ

5. เห็ดฟาหั่นชิ้นเล็กๆ 2 ช้อนโต๊ะ

6. ผักชีฝรั่งสับหยาบๆ 1 ช้อนโต๊ะ

7. มะเขือเทศสุกลวกหั่นชิ้นเล็กๆ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

เอากระทะตั้งบนเตาไฟ เอาเนยใส่ลงไป พอร้อนเอาหอมใหญ่ลงผัดก่อนจนหอมสุกกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ เอาส่วนผสมอื่นๆ ใส่ลงไปได้ ปรุงรสดู ลองชิมดูว่าพอใจหรือยัง เติมได้เมื่อยังไม่พอใจ เช่น หวานเค็ม

เอา “ซอส” นี้ไปราดหน้าไก่ทอด เนื้อทอดก็อร่อยดี แล้วโรยด้วยผักชีฝรั่งข้าหน้าด้วย

ซอสสีน้ำตาล

ซอสชนิดนี้ก็เป็นที่นิยมรับประทานกันไม่น้อย ถือว่าเป็นหลักในการปรุงอาหารฝรั่ง เป็นซอสที่เปรียบเสมือนพื้นฐานของซอสโดยทั่วไป นั่นก็เพราะเอาซอสนี้ไปเป็นส่วนผสมของซอสต่างๆ ได้มากมาย แล้วเอามาราดหน้าเนื้อสัตรว์ต่างๆ ได้อร่อย เช่น ปู ปลา ไก่ เนื้อ และหมู

ส่วนผสม “ซอสสีน้ำตาล”

1. เนื้อวัวสับหยาบๆ 500 กรัม

2. หอมใหญ่หั่นชิ้นโตๆ 1 หัว

3. เนย 5 ช้อนโต๊ะ

4. มะเขือเทศสุกหั่น 3 ช้อนโต๊ะ

5. ต้นกระเทียมหั่น 1 ต้น

6. แครอทหั่นเป็นชิ้นบางๆ 2 ช้อนโต๊ะ

7. กานพลู 2 ดอก

8. ใบกระวาน 5 ใบ

9. อบเชยชิ้นยาว 1 ซม. 1 ชิ้น

10. คื่นฉ่ายหั่น 1 ต้น

11. พริกไทยเม็ด 10 เม็ด

12. แป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ

13. เกลือป่น 1 ช้อนชา

วิธีทำ

เอากระทะตั้งบนเตาไฟ ใส่เนยลงไป พอร้อนเอาเนื้อใส่ผัดจนสุกดี แล้วใส่มะเขือเทศลงไปอีก เอาน้ำซุปใส่ลงไปร่วมกับผักต่างๆ ที่มีอยู่ ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ ให้เหลือน้ำสักครึ่งหนึ่งที่เป็นอยู่ เคี่ยวจนกระทั่งซอสเป็นสีน้ำตาล ต่อมาเมื่อซอสเคี่ยวได้ที่แล้วจึงกรองอีกทีหนึ่ง ใช้ซอสนี้ราดลงไปที่เนื้อสัตว์ทอด ย่าง สเต็ก เนื้ออบ ไก่อบ ปลาทอด ได้ทั้งนั้น

มีทซอส

ซอสของฝรั่งมีอีกชนิดหนึ่งเรียกว่า “มีทซอส” เขาเอาซอสชนิดนี้ไปราดลงบน “สปาเกตตี้” ได้รสชาติที่อร่อยเอามากๆ “มีทซอส” หรือ “ซ็อสที่ทำมาจากเนื้อ” นี้เอง ของอร่อยของเขา

ส่วนผสม “ซอสราดหน้าสปากเกตตี้” หรือ “มีทซอส”

1. เนื้อวัวบดละเอียด 100 กรัม

2. หอมใหญ่สับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ

3. กระเทียมสับ 5 กลีบ

4. เห็ดฟางหั่นชิ้นเล็กๆ 100 กรัม

5. คื่นฉ่ายหั่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

6. มะเขือเทศสุกหั่นชิ้นเล็กๆ 1 ช้อนโต๊ะ

7. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ

8. น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ

9. ซอสมะเขือเทศ 2 ช้อนชา

10. แป้งข้าวโพด ½ ช้อนชา

11. แมกกี้ซอส 2 ช้อนชา

12. เกลือป่น ¼ ช้อนชา

13. พริกไทยป่น ½ ช้อนชา

14. น้ำชุป 1 ถ้วยตวง

15. เนยแข็งขูด 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

เอากระทะตั้งบนเตาไฟ เอาน้ำมันพืชใส่ลงไป พอร้อนเอาหอมใหญ่ใส่ลงผัดจึงใส่เนื้อวัวบด เครื่องปรุงต่างๆ แล้วใส่น้ำเคี่ยวให้เข้ากันดีและเนื้อจะนุ่มนวล เครื่องปรุงเข้าแทรกซึมไปในเนื้ออีกด้วย เอาซอสนี้ไปราดลงบนสปาเกตตี้ที่เตรียมเอาไว้ในจาน โรยหน้าด้วยเนยแข็งที่ขูด อร่อยแบบฝรั่ง คนไทยเราก็เอาไปปรุงรับประทานกันได้เสมอ

ซอสมะเขือเทศ

“ซอสมะเขือเทศ” ชนิดนี้ก็ได้แก่ “แคทชัพ” (Catchup) นั่นเอง มีขายทั่วไป ผลิตในเมืองไทยมากมายหลายยี่ห้อ ซอสชนิดนี้ถือเป็นซอสของฝรั่งที่นิยมรับประทานกันมาก โดยเฉพาะเอาไปเป็นเครื่องจิ้มรับประทานกับ “ไข่ดาว” ก็ได้ เอาไปรับประทานกับ “หมูแฮม” ก็ได้ เราจะพบมากในอาหารเช้าทั่วไปของฝรั่งที่หลายท่านก็นิยมกัน ตามด้วยน้ำชา กาแฟนั่นแหละ

“ซอสมะเขือเทศ” นี้ทำมาจากมะเขือเทศแน่นอนส่วนจะมีส่วนผสมอะไรบ้าง ปรุงแต่งกันอย่างไรนั้น มาพิจารณาดูกันต่อไป

ส่วนผสม “ซอสมะเขือเทศ”

1. มะเขือเทศสุก 1 กิโลกรัม

2. หอมใหญ่ 5 หัว

3. พริกชี้ฟ้าแดง 5 เม็ด

4. อบเชยคั่วป่น 1 ช้อนชา

5. กานพลูคั่วป่น ½ ช้อนชา

6. กระเทียมแกะเปลือก 2 หัว

7. น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ

8. เกลือป่น 1 ช้อนชา

9. น้ำส้มสายชูกลั่น 1 ถ้วยตวง

10. น้ำสะอาด 2 ถ้วยตวง

วิธีทำ

เอามะเขือเทศสุก หอมใหญ่ พริก กระเทียม หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่เครื่องเทศ คือ อบเชยและก้านพลูลงไปด้วย เอาน้ำสะอาดใส่ลงไป 2 ถ้วยตวง ต้มเคี่ยวไปจนเปื่อยมากๆ แล้วยกลง เอามาปั่นด้วยเครื่องปั่นไฟฟ้าให้ละเอียด กรองอากาศออกจนได้เนื้อซอสมะเขือเทศแท้ๆ คราวนี้ก็เอามาใส่หม้อต้มอีก ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย เกลือ น้ำส้มสายชูกลั่น เคี่ยวต่อไปอีก ชิมรสดู ชอบรสไหนก็ปรุงแต่งกันได้อีก

เคี่ยวให้เนื่อซอสข้นเหนียวก็ใช้ได้ เก็บเอาไว้ในขวดที่ฆ่าเชื้อแล้วจะเก็บได้นาน เอาซอสชนิดนี้ไปจิ้มอะไรก็ได้หลายอย่างด้วยกัน เป็นต้นว่า กุ้งเผา ปูนึ่ง หมูทอด แฮม มันทอด ได้ทั้งสิ้น

น้ำจิ้มพืนฐาน

“ซีอิ้วขาว” ทำมาจาก “ถั่วเหลือง”

รสดี อร่อย หอม เอามาจิ้มอะไรๆ ก็ได้ บนโต๊ะอาหารของชาวจีนจึงจะต้องมี “ซีอิ้วขาว” วางอยู่ด้วยถ้วยหนึ่ง เอา “ซีอิ้วขาว” มาจิ้มปลาทอดก็ได้ โดยไม่ต้องปรุงแต่งเพิ่มเติมด้วยอะไรอีก หรือจะเอา “ซีอิ้วขาว” มาจิ้มกับปลานึ่งก็อร่อย อาหารอะไรที่รสเค็มยังอ่อนอยู่ก็เอา “ซีอิ้วขาว” มาใส่เข้าไปก็ได้ สร้างรสเค็มที่อร่อยทั้งนั้น “ซีอิ้วขาว” จึงเป็น “น้ำจิ้ม” สำหรับอาหารจีนที่ยอดเยี่ยมอย่างหนึ่ง เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักชิมทั้งหลาย ในครัวของท่านก็มี “ซีอิ้วขาว” วางอยู่แล้วแน่นอน ขาดไม่ได้ เช่นเดียวกับ “น้ำปลาดี” ของไทยเรา

ซีอิ้วดำหวาน

“ซีอิ้วดำหวาน” เป็นซีอิ้วอีกอย่างหนึ่งที่ทำมาจากถั่วเหลือง แป้ง น้ำตาลเคี่ยวรสจะหวนทีเดียว อาหารจีนมากมายเอา “ซีอิ้วดำหวาน” มาปรุงรสกันเสมอ หากขาด “ซีอิ้วดำหวาน” ไปก็ไม่อร่อย เช่น จับฉ่าย น้ำจิ้มเป็ดย่าง น้ำจิ้มหมูแดง หมูกรอบ พะโล้ขาหมูและพะโล้อื่นๆ ก็จะต้องเอา “ซีอิ้วดำหวาน” มาปรุงด้วยตามสูตรเก่าดั้งเดิม

เต้าเจี้ยว

“เต้าเจี้ยว” เป็นเครื่องปรุงรสที่ดีอีกอย่างหนึ่ง และเหมาะสมกับอาหารจีนหลายๆ อย่างด้วยกันที่ขาดเต้าเจี้ยวแล้วความอร่อยจะลดน้อยลงทันที เอา “เต้าเจี้ยว” มาเป็น “น้ำจิ้ม” ได้มาหลายอย่างด้วยกัน gเช่น น้ำจิ้มไก่ น้ำจิ้มปลานึ่ง เอาเต้าเจี้ยวเปล่าๆ มาจิ้มปลานึ่งก็ได้อีกเช่นเดียวกัน เอา “ เต้าเจี้ยว” มายำก็ได้ เอา “เต้าเจี้ยว” มาราดปลานึ่งก็อร่อยที่เรียกว่า “ปลานึ่งเต้าเจี้ยว” นั่นเอง

น้ำราดอเดิร์ฟเย็นแบบจีน

“ออเดิร์ฟ” หมายถึง อาหารเรียกน้ำย่อยอย่างหนึ่งนิยมเอามารับประทานก่อนที่จะรับประทานข้าวหรืออาหารอื่นๆ “ออเดิร์ฟแบบจีน” ก็มีอยู่เช่นเดียวกับของฝรั่งทั้ง “ออเดิร์ฟเย็น” และ “ออเดิร์ฟร้อน” อีกด้วย “ออเดิร์ฟเย็น” ก็มีอาหารหลายอย่าง เช่น ไข่เยี่ยวม้า กุ้ง หมูตั้ง ขาหมูยัดไส้เป็ดย่าง กึ๋นเป็ด เป็นต้น แล้วก็มีเห็ดหอม หน่อไม้กระป๋อง และอีกหลายๆอย่าง “ออเดิร์ฟเย็น” นี้จะต้องทำน้ำราดเหมือนน้ำจิ้มเช่นเดียวกัน เพื่อให้เกิดรสชาติดียิ่งขึ้น บางทีก็มี “น้ำจิ้ม” มาให้วางเรียงรายกันหลายถ้วย เช่น ซีอิ้วขาว ซีอิ้วดำหวาน น้ำส้มสายชูกลั่นพริกชี้ฟ้าแดงซอสเปรี้ยวอะไรทำนองนี้แหละ ในที่นี้เป็น “น้ำราดออเดิร์ฟเย็น” แบบจีนที่น่าสนใจ ลองมาพิจารณากันได้เดี๋ยวนี้

ส่วนผสม “น้ำราดออเดิร์ฟเย็นแบบจีน”

1. ซอสแมกกี้ 3 ช้อนโต๊ะ

2. เหล้าซิจิ่ว 2 ช้อนโต๊ะ

3. น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ

4. น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ

5. ซีอิ๊วขาวอย่างดี 1 ช้อนชา

6.น้ำซุปกระดูกหมู 5 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

เอาส่วนผสมทุกอย่างมาผสมเข้ากันด้วยกัน แล้วเอามาเป็นน้ำจิ้มหรือราดออเดิร์ฟเย็น รับประทานทันที

น้ำจิ้มไก่แช่เหล้า

“ไก่แช่เหล้า” อาหารจีนอีกอย่างหนึ่งที่เคี้ยวเพลินอร่อย ยิ่งได้ไก่บ้านไทยเราด้วยก็ยิ่งอร่อยมากยิ่งขึ้นอีก แต่อย่าลืมว่าไก่ที่เอามาแช่เหล้านั่นเป็นไก่ที่ต้มกับน้ำตามปกติธรรมดานี่เอง รสไก่ต้มก็เฉยๆ เรื่อยๆ อย่างที่เข้าใจกันอยู่แล้ว ความอร่อยของ “ไก่แช่เหล้า” นี้จึงต้องมี “น้ำจิ้ม” ที่เหมาะสมอีกด้วยจึงจะช่วยเสริมรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้นอีก แต่ว่าจะเอา “น้ำจิ้ม” อะไรจึงจะดี มีส่วนผสมอะไรบ้าง แล้วก็วิธีทำนั้นจะทำประการใดจึงจะอร่อย

ส่วนผสม “น้ำจิ้มไก่แช่เหล้า”

1. เต้าเจี้ยวอย่างดีที่หนึ่ง 2 ช้อนโต๊ะ

2. พริกชี้ฟ้าแดง เขียว 3 เม็ด

3. ขิงแก่ปอกหั่นเล็กๆ 1 ช้อนโต๊ะ

4. กระเทียมแกะเปลือก 2 หัว

5.น้ำตาลทราย 3 ช้อนชา

6. รากผักชีหั่นชิ้นเล็กๆ 2 ช้อนชา

7.น้ำมันพืช ½ ช้อนชา

วิธีทำ

จัดการเอาเครื่องปรุงทั้งหมดลงใส่ครก โขลกให้ละเอียดด้วยกัน ทั้งเต้าเจี้ยว พริกชี้ฟ้า ขิง รากผักชี กระเทียม ตักเอามาใส่ถ้วย เติมน้ำตาลทรายลงไป ใส่น้ำมันพืชลงไปคนให้เข้ากันดี ต่อจากนั้นก็เอาไปผัดในกระทะให้เข้ากันจนแห้งลงพอสมควร แห้งมาก ข้นมาก เติมน้ำสะอาดลงไปเล็กน้อย แล้วยกลงเอามาเป็น “น้ำจิ้มไก่แช่เหล้า” ได้ทันที เคี้ยว “ ไก่แช่เหล้า” อร่อยๆ เพราะจิ้มกับ “น้ำจิ้ม” ที่เข้ากันได้อย่างวิเศษอย่างนี้จะต้องเอร็ดอร่อยแน่นอนที่สุด

น้ำจิ้มหอยจ๊อ

“หอยจ๊อ” ก็หมายถึง การเอาลูกชิ้นปูมาทอดนั่นเอง “หอยจ๊อ” มีส่วนผสมเป็นเนื้อหมู มันหมูแข็ง ไข่เป็ดอีกด้วย เป็นอาหารจีนที่รสดีมากอย่างหนึ่ง การรับประทาน “หอยจ๊อ” จะต้องมี “ น้ำจิ้ม” มาเสริมรสชาติอยู่ด้วยแน่นอนเช่นเดียวกันกับอาหารอื่นๆ เหมือนกัน

ส่วนผสม “น้ำจิ้มหอยจ๊อ”

1. แยมสตรอเบอรี่ 1 ช้อนโต๊ะ

2.น้ำส้มสายชูกลั่น 1 ช้อนโต๊ะ

3.น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา

4.เกลือป่น ¼ ช้อนชา

5. น้ำสะอาด 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

เอาส่วนผสมทั้งหมดมาต้ม เคี่ยวให้เดือดสักพักหนึ่งยกลง เอามาเป็น “น้ำจิ้มหอยจ๊อ” ได้ทันที หากไม่ทำแบบนี้ เอา “น้ำบ๊วยเจี่ย” ที่ปรุงสำเร็จบรรจุขวดมาขายได้เช่นเดียวกัน จะทำให้ “หอยจ๊อ” มีความอร่อยมากยิ่งขึ้นอีก รสน้ำจิ้มนี้ออกหวานๆ เปรี้ยวๆ จึงถูกกับ “หอยจ๊อ” มาก

น้ำจิ้มหมูกระจก

“หมูกระจก” ก็คือ “มันหมู” นั่นเอง เอา “มันแข็งของหมู” มาชุบแป้งทอด ทอดเพื่อเอาไปจิ้มน้ำจิ้มอีกทีหนึ่ง ใครที่ผอมน่าจะลองรับประทาน “หมูกระจก” กันบ่อยๆ เพื่อให้รูปร่างอ้วนเสียที ไม่เช่นนั้นก็จะผอมอยู่เรื่อยไป ส่วนผสมของ “น้ำจิ้มหมูกระจก” มีอะไรอยู่บ้าง ทำอย่างไร ลองมาพิจารณากันดูได้เดี๋ยวนี้

ส่วนผสม “น้ำจิ้มหมูกระจก”

1. กระเทียมแกะเปลือกออก 2 หัว

2. พริกชี้ฟ้าแดงเขียว 2 เม็ด

3. เกลือป่น ½ ช้อนชา

4. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

5. น้ำส้มสายชูกลั่น 2 ช้อนโต๊ะ

6. น้ำซุปกระดูกหมู

วิธีทำ

เอากระเทียม พริกชี้ฟ้าแดง เขียว โขลกละเอียดตักใส่ถ้วย เติมน้ำตาลทราย เกลือป่น น้ำส้มสายชูกลั่นคลุกผสมเข้าด้วยกัน ใส่น้ำซุปกระดูกหมูลงไปเล็กน้อย เอามาจิ้มกับ “หมูกระจก” ได้ทันที อร่อย “ถ้าไม่กลัวอ้วน” เหมาะสมสำหรับท่านชาย ท่านหญิงที่รูปทรงผอมแห้งทั้งหลายมากกว่า ไม่เหมาะสมกับท่านที่รูปร่างเจ้าเนื้อเด็ดขาด

น้ำจิ้มขนมจีบจีน

“ขนมจีบจีน” อาหารจีนที่อร่อยอย่างหนึ่ง ความจริง “ขนมจีบจีน” นี้ก็ถือได้ว่าเป็น “ของว่าง” ได้ดีมาก เคี้ยว “ขนมจีบจีน” เข้าไปสัก 2-3 ลูกก็อิ่มทีเดียว ส่วนผสมของ “ขนมจีนจีบ” นั้นมี เนื้อปูม้า หมูสับหน่อไม้ต้มหั่นสี่เหลี่ยมเล็กๆ สูตรดังเดิมนั้น “ขนมจีบจีน” มีเห็ดหอมเป็นส่วนผสม มีของดีๆ อย่างนี้จึงทำให้รสดีอร่อยขึ้นมา แต่ก็ต้องมี “น้ำจิ้ม” ที่เข้ามาเชิดหน้าชูตาจนได้ เพื่อเสริมสร้างความอร่อยยิ่งๆ ขึ้นไปอีก

ส่วนผสม “น้ำจิ้มขนมจีบจีน”

1. ซีอิ้วดำหวาน 1 ช้อนโต๊ะ

2. ซีอิ้วขาว 1 ช้อนชา

3.น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

4.น้ำส้มสายชูกลั่น 1 ช้อนโต๊ะ

5.พริกขี้หนูสวนโขลกละเอียด 10 เม็ด

6.กระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

เอาส่วนผสมทั้งหมดรวมผสมกัน คลุกเคล้าให้เข้ากันดี ใส่กระเทียมเจียวลงไปทีหลัง เอามารับประทานเป็นน้ำจิ้มกับ “ขนมจีบ” ได้แล้ว

การรับประทาน “ขนมจีบจีน” นี้จะต้องรับประทานกำลังร้อนๆ เสมอ จึงจะอร่อยดี เอาไปลองทำรับประทานกันได้ เพราะ “น้ำจิ้ม” นี้ถูกกันกับ “ขนมจีบจีน” มาก ด้วยสูตรเก่าดั้งเดิมนั่นเอง

น้ำจิ้มตือฮวน

“ตือฮวน” อาหารจีนที่อร่อยชนิดหนึ่ง เดี๋ยวนี้หารับประทานไม่ค่อยจะได้นัก ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร เราท่านอาจจะเคยเห็นอาแป๊ะหาบ “ตือฮวน” ขายกันมาแล้ว นับวันจะหาได้ยาก เห็นจะเป็นเพราะเมื่อท่านผู้เฒ่าผู้แก่นี้ล้มหายตายจากไป ลูกหลานก็ไม่เอาอาหารชนิดนี้มาปรุงขายกัน หันไปทำอย่างอื่นกันหมด “ตือฮวน” จึงหดหายไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยพบเจออาหารอย่างนี้กันแล้วในปัจจุบัน

หารับประทานยากเต็มที “ตือฮวน” นั้นมี “เครื่องในหมู” หลายอย่าง เรียกว่าทุกอย่างก็ได้ คือ ตับหมู ไส้หมูใหญ่ ม้ามหมู หัวใจหมู ปอดหมู เนื้อหมูก็มี ลิ้นหมูบางทีก็ยังมีอีก แต่ “เซ่งจี้” หมูนั้นไม่เคยเห็นว่าใครใส่ เพราะไม่ได้กินเลย ส่วนสิ่งที่มีมากก็ได้แก่ “ไส้หมูใหญ่” นี่เอง จะต้องใส่มาให้ในชามมากเป็นพิเศษ ตับหมูเล็กน้อย เช่นเดียวกับ หัวใจหมู ม้ามหมู ปอดหมู

“ตือฮวน” เป็นเครื่องในหมูหลากหลายชนิด เอามาต้ม น้ำต้มเครื่องในหมูจึงหวานด้วยธรรมชาติ ผสมผสานกับ “ผักกาดดองเปรี้ยว” ที่มีอยู่ก็เหมือนกับ “ต้มเครื่องในหมูกับผักกาดดอง” นั้นเอง รสชาติของ “ตือฮวน” จึงออกเค็มและเปี้ยวเล็กน้อยเท่านั้น ไม่มีการใส่น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลปี๊บเลยแม้แต่นิดเดียว ความอร่อยจึงขี้นอยู่กับ “น้ำจิ้ม” มาก เช่นเดียวกับอาหารอื่นๆ ที่จะต้องพึ่งพาอาศัยน้ำจิ้มนั่นเอง เหมือนกันหมด ส่วนผสม “น้ำจิ้มตือฮวน” มีอะไรอยู่บ้างเป็นส่วนผสม วิธีการทำๆ อย่างๆไร โปรดพิจารณาดูได้ดังต่อไปนี้

ส่วนผสม “น้ำจิ้มตือฮวน”

1.กระเทียมปอดเปลือก

โขลกให้ละเอียด 2 หัว

2.พริกขี้หนูสวน

โขลกรวมกับกระเทียม 10 เม็ด

3. น้ำส้มสายชูกลั่น 3 ช้อนโต๊ะ

4. ข่าหั่นแล้วโขลกรวมกับกระเทียม 2 แว่น

5. น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา

6.เกลือป่น 2 ช้อนชา

วิธีทำ

เอาเครื่องปรุงทั้งหมดโขลกผสมรวมกัน แล้วเติมน้ำส้มสายชูกลั่น น้ำตาลทรายลงไปคนให้เข้ากันดีแล้วก็เป็นอันว่าใช้ได้ เอา “เครื่องในหมู” มาจิ้มได้อย่างเอร็ดอร่อยมากชดน้ำแกงที่มีอยู่ตามเข้าไป คล่องคอดีมาก โล่งทีเดียว เอร็ดอร่อยไปกับรสของตับหมู ม้ามหมู หัวใจหมู ปอดหมู ไส้หมู เนื้อสันหมู ลิ้นหมู อร่อยไปหมด

เคี้ยวผักกาดดอกเปรี้ยวเล็กน้อยตามเข้าไปอีกก็ได้เรื่อง บางท่านก็เอา “ตือฮวน” มารับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อยดี เหมือนรับประทานกับข้าวสวย ร้อนๆ ก็อร่อยดี เหมือนรับประทานข้าวสวยร้อนๆ กับ “แกงจืดเครื่องในหมู” นั่นเอง

น้ำจิ้มหมูกรอบ

“หมูกรอบ” ย่างมาแล้ว หรือทอดมาแล้วนั้น ยังไม่มีรสชาติอะไรเลย เพียงเป็นหมูย่างกรอบธรรมดาเท่านั้น แล้วก็เป็น “หมูสามชั้น” ย่างหรือทอดตามปกติธรรมดานี้เองด้วย ความอร่อยจึงไม่เกิดขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว เอา “หมูกรอบ” ไปจิ้มกับ “น้ำปลา” ก็ไม่ได้ความอร่อย เพราะไม่เข้ากัน จะปรุงน้ำปลาหรือยำน้ำปลาอย่างไรก็ไม่อร่อย

หากจะให้เกิดรสอร่อยก็จะต้องเอา “หมูกรอบ” ไปจิ้ม “น้ำจิ้มหมูกรอบ” โดยตรง ความอร่อยจึงจะตามมาทันทีทันใด

ส่วนผสม “น้ำจิ้มหมูกรอบ”

1. ซีอิ้วดำหวาน 2 ช้อนโต๊ะ

2. พริกชีฟ้าแดง เขียวหั่นขวาง 3 เม็ด

3. น้ำส้มสายชูกลั่น 1 ช้อนโต๊ะ

4. เหล้าโรงหรือเหล้าแม่โขง 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

เอาส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงไปในถ้วย คนผสมให้เข้ากันดี เอาไปจิ้ม “หมูกรอบ” ได้อย่างเอร็ดอร่อย ดูกกันดีด้วย หากไม่มีน้ำจิ้มแบบนี้ อนุโลมให้ใช้ “ซอสพริกศรีราชา” ก็ได้ด้วย อร่อยเหมือนกันถ้าชอบ เอา “หมูกรอบ” ไปจิ้ม “น้ำพริกเผา” ก็ได้เช่นเดียวกัน

อร่อยไปอีกแบบหนึ่ง ถ้าท่านชอบ “หมูกรอบ” นี้เอาไปผสมใส่ใน “ข้าวหมูแดง” ได้อย่างดี เข้าชุดกับ “หมูแดง” ที่ใช้เนื้อสันหมูแท้ๆ มาย่างโดยมีส่วนผสมทาเอาไว้ก่อนจึงรับประทานกับ “ข้าหมูแดง” ได้อย่างเอร็ดอร่อยยิ่งนัก