นี่ก็เป็นแจ่วอีกอย่างหนี่งค่ะ แต่ชื่อแปลกหูออกไปคือมีเพิ่มเข้ามาอีกเป็น “แจ่วบอง” มีความพิเศษกว่า “แจ่ว” ก็ที่มีเครื่องปรุงเพิ่มมาอีกเป็นพิเศษ จะเรียกว่าเป็น “แจ่ว” พิเศษ หรือ “แจ่วทรงเครื่อง” ก็คงจะไม่ผิดนัก คำว่า “ทรงเครื่อง” ก็หมายถึงมีอะไรเข้ามาปรุงแต่งมากยิ่งขึ้น หากเป็นอาหารก็มีความอร่อยมากยิ่งขึ้น หากเป็นอาหารก็มีความอร่อยมากยิ่งขึ้นไปอีกเครื่องปรุงเพิ่ม วิธีการก็เพิ่ม
ราคาค่างวดก็แพงมากขึ้นไปเป็นธรรมดา ชาวอีสานชอบ “แจ่ว” เป็นธรรมชาติอยู่แล้ว เกิดมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย จำความได้ก็มาพบกับ “แจ่ว” มาตลอด ไม่มีอะไรเลยก็ “แจ่ว” ถ้วยเดียว ล้อมวงกันรับประทาน มีข้าวเหนียวนึ่งอีกอย่างหนี่งก็รับประทานกันได้อย่างอิ่มหมีพีมัน มีผักมาจิ้มหลายๆ อย่าง หลายชนิด ได้รสชาติ ดีมากจริงๆ แตงกวา ถั่วฝักยาว ยอดกระถิน ยอดชะอม ถั่วพู ยอดผักบุ้งนา ยอดมะม่วงอ่อน ต้นหอม ถั่วงอกดิบ
แล้วก็ตามมาด้วย “แจ่วบอง” ที่จะกล่าวถึงต่อไปอีกอย่างหนึ่ง รสชาติช่าง “แซ่บ” เหลือเกินจิรงๆ เอาละ คุณๆ ที่ชอบอาหารอีสานลองมาดูเครื่องปรุง “แจ่วบอง” และวิธีปรุงกันดูบ้างนะคะว่ามีอะไรบ้าง
ส่วนผสม “แจ่วบอง”
1. ปลาร้า 100 กรัม
2. หัวหอมแดง 5 หัว
3. กระเทียม 2 หัว
4. พริกขี้หนูแห้ง 20 เม็ด
5. ข่า 3 แว่น
6. น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำปลาดี 2 ช้อนโต๊ะ
8. ปลาป่นใหม่ๆ 5 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
ก่อนอื่นคุณจะต้องเอาพริกขี้หนูแห้งคั่วจนหอมกรอบพักเอาไว้ เอาปลาร้าที่เตรียมเอาไว้ห่อใบตองเผาไฟให้สุกเสียก่อน ปลาร้าจะหอมทีเดียว เพราะมีใบตองมาห่อหุ้มอยู่นั่นเอง ต่อมาก็เอาหัวหอมแดง หัวกระเทียม ข่า มาเผาไฟให้สุกอีก จัดการโขลกให้ละเอียด เอาปลาป่นลงโขลกเข้าด้วยกัน พริกแห้งคั่วก็โขลกด้วย เอาปลาร้ามาสับให้ละเอียด โขลกเข้ากับเครื่องปรุงให้หมด
ต่อมาก็เอาน้ำปลาดี ใส่ลงไป น้ำส้มมะขามเปียกใส่เข้าไป คนให้เข้ากันในถ้วยที่เตรียมเอาไว้ คุณกะจะได้ “แจ่วบอง” ที่น่ารับประทานถ้วยหนึ่งแล้วค่ะ คราวนี้ก็หันมาจัดการกับผักดิบ ผักสด กันบ้างเนื่องจากเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะรับประทานกับ “แจ่วบอง” นั่นเอง หาผักดิบ ผักสด หลายๆ อย่างมาจิ้ม “แจ่วบอง” ถ้วยนี้ได้อย่างเอร็ดอร่อยมาก ผักที่ว่านั้นก็มีมากมายดังกล่าวมาแล้วอีกด้วย ความจริงเมล็ดสะตอก็ดีนะคะ สามารถนำเอามารับประทานกับเครื่องจิ้มที่พิเศษของอีสานนี้ได้ด้วย ไม่ผิดอะไร แม้จะเป็นพืชผักทางภาคใต้ก็ตาม
“แจ่วบอง” ถ้วยนี้ คุณอาจจะมองเห็นว่ามีความแตกต่างจาก “แจ่ว” เฉยๆ หรือ แจ่วตามปกติธรรมดาทั่วไป เพราะเครื่องปรุงมีเพิ่มขึ้นมาหลายอย่าง มีข่า มีน้ำส้มมะขามเปียก มีหัวหอม หัวกระเทียม เพิ่มเข้ามาอีกด้วย แน่ละ ความอร่อยนั้นเห็นจะไม่ใช่ธรรมดาแล้วนะค่ะ หากว่าคุณมีไก่ย่างมาเพิ่มเข้าไปด้วย หรือมีปลาย่างมาเพิ่มเข้าไปอีก คุณก็จะเกิดความอร่อยมากยิ่งขึ้นมากมาย มีเนื้อย่าง มีตับย่าง คุณก็เอามาจิ้ม “แจ่วบอง” นี้ได้เสมอ
ปลานึ่งก็เอามาจิ้มได้อีก อร่อยไปทั้งนั้น อาหารอีสานประเภทจิ้มน่าสนใจอย่างนี้เอง เผ็ด เค็ม เปรี้ยว นี่คือรสชาติของความเอร็ดอร่อยที่อยู่สำหรับภาคนี้จริงๆ ใครที่ได้ลิ้มลองแล้วก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า วันต่อไปน่าจะเอามารับประทานกันอีก เพราะติดอกติดใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น